4 รูปแบบของการจัดฟัน ที่คนอยากฟันสวยควรรู้

ศูนย์ : ศูนย์ทันตกรรม

บทความโดย : ทพ. วุฒิพงษ์ เหล่าอมต

4 รูปแบบของการจัดฟัน ที่คนอยากฟันสวยควรรู้

เนื่องจากฟันแต่ละคนมีรูปร่าง ขนาดฟัน และการเรียงตัวที่แตกต่างกันไป รวมไปถึงการมีปัญหาด้านสุขภาพฟันก็เช่นกัน หลายคนประสบกับปัญหา ฟันไม่สวย ฟันหน้ายื่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันล่างคร่อมฟันบน การสบฟันที่ไม่ดี โดยปัญหาเหล่านี้มักเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยิ้มไม่มั่นใจ ส่งผลให้มีบุคลิกภาพที่ไม่ดี “การจัดฟัน” จึงเป็นการรักษาและแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันที่สบกันผิดปกติ เรียงตัวไม่เป็นระเบียบ และไม่สวยงาม ให้กลับมาอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและสวยงาม อีกทั้งบางกรณียังอาจช่วยเรื่องปรับโครงหน้าให้เรียวขึ้นได้อีกด้วย ปัจจุบันประเภทการจัดฟันมีหลายรูปแบบให้เลือก ซึ่งการจัดฟันแต่ละแบบจะสามารถตอบสนองความต้องการ และความเหมาะสมของแต่ละคนที่แตกต่างกัน


ทำไมต้องทำการจัดฟัน

การจัดฟัน เป็นสาขาหนึ่งทางทันตกรรมเพื่อความงามที่รักษาและแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็น ฟันไม่สวย ฟันหน้ายื่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันล่างคร่อมฟันบน การสบฟันที่ไม่ดี รวมถึงขากรรไกรฟันที่จำเป็นต้องสัมพันธ์กับใบหน้า และปัจจัยอื่นๆ โดยการใช้เครื่องมือเพื่อทำการจัดฟัน เคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่สมดุล โดยทันตแพทย์เฉพาะทางการจัดฟัน เพื่อให้มีการสบฟันที่ดีขึ้น การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพ ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดฟันผุหรือโรคเหงือก และหลีกเลี่ยงการเกิดรอยสึกของฟัน รวมทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในรอยยิ้มที่สดใส และมีบุคลิกภาพที่ดี


ประเภทของการจัดฟัน

การจัดฟันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ซึ่งในแต่ละประเภทนั้นก็จะมีชนิดของเครื่องมือให้เราสามารถเลือกได้เหมาะสมกับตามความต้องการ ได้แก่

  • การจัดฟันแบบติดเครื่องมือ เป็นการจัดฟันที่มีวัสดุติดอยู่บนผิวฟันตลอดเวลาของการจัดฟัน อาทิ จัดฟันแบบโลหะ หรือการจัดฟันแบบยางสี การจัดฟันแบบเซรามิก เป็นต้น
  • การจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ เป็นการจัดฟันแบบถอดออกได้ ไม่ต้องมีเครื่องมือติดอยู่บนผิวฟัน ซึ่งการจัดฟันประเภทนี้จะมีความสะดวกมากขึ้น อาทิ การจัดฟันแบบใส อินวิสไลน์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์จัดฟันชนิดใสแบบถอดเพื่อรับประทานอาหารหรือแปรงฟันได้

รูปแบบของการจัดฟันมีอะไรบ้าง

รูปแบบของการจัดฟันจะแบ่งออกตามชนิดของเครื่องมือที่ใช้ในการจัดฟัน โดยสามารถแบ่งออกได้ 4 ชนิด ได้แก่

1. จัดฟันด้วยเครื่องมือที่เป็นโลหะ เป็นการใช้แบรคเกตโลหะ ลวดจัดฟัน และยางโอริงหลากสีสันทำหน้าที่ในการดึงฟันช่วยในการเคลื่อนฟันให้ไปยังตำแหน่งที่ทันตแพทย์จัดฟันต้องการ การจัดฟันแบบนี้จะพบเห็นได้บ่อยเนื่องจากเป็นวิธีเบสิคมาตรฐานในการรักษาและใช้กันมาอย่างยาวนาน เหมาะสำหรับการแก้ไขการสบฟันผิดปกติ การเรียงตัวของฟันที่ผิดปกติทุกรูปแบบ สามารถเปลี่ยนสียางได้ทุกเดือนตามความต้องการ ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีการนัดหมายพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 4 สัปดาห์ต่อครั้ง (แล้วแต่กรณี) เพื่อทำการเคลื่อนทิศทางของฟันไปตามแบบแผนที่ทันตแพทย์ได้วางเอาไว้ี

2. จัดฟันด้วยเครื่องมือแบบเซรามิก เป็นการจัดฟันยึดติดแน่น ลักษณะของเครื่องมือมีความคล้ายคลึงกับแบบโลหะ แต่ทำจากวัสดุเซรามิกสีเหมือนฟันทำให้มองเห็นได้ยาก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ที่ไม่ต้องการให้เห็นว่าจัดฟันชัดเจน ซึ่งจะทำงานร่วมกับยางโอริงดึงฟันที่มีสีสันสดใส และลวดที่เป็นสีโลหะเงินเพื่อที่จะเคลื่อนฟันไปในตำแหน่งที่ต้องการ สามารถจัดฟันที่มีความซ้อนเกได้ทุกรูปแบบ

3. จัดฟันด้วยเครื่องมือเดม่อน เดม่อน (Damon) เป็นการจัดฟันด้วยแบรคเกตชนิดดามอนซิสเต็ม ที่มีล็อกในตัวสามารถปิดบานหน้าต่างลงมาล็อกลวดจัดฟันได้ ไม่ต้องใช้ยางรัด มีประสิทธิภาพสูง มีกลไกการบานพับขนาดเล็กที่ยึดกับลวดอย่างหลวม ๆ เพื่อดึงให้ฟันเคลื่อนตัว ทำให้ฟันไม่รู้สึกกดทับตึงแน่นเจ็บปวดแบบการจัดฟันแบบโลหะยึดติด ข้อดีการจัดฟันแบบดามอนด้วยการที่ ไม่ต้องใช้ยาง ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องยางขาด หรือยางเสื่อมสภาพและอาจไม่ต้องถอนฟันออกเลย และเทคโนโลยีพิเศษเฉพาะของเครื่องมือแบบบานหน้าต่างปิดล็อกและลวดชนิดพิเศษที่ทำให้การเคลื่อนฟันเป็นไปอย่างนุ่มนวล ระคายเคืองช่องปากน้อยกว่า และสามารถทำความสะอาดฟันได้ง่ายกว่า

4. การจัดฟันแบบใสอินวิสไลน์ การจัดฟันแบบใส อินวิสไลน์ (Invisalign) เป็นการจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ โดยเป็นเครื่องมือจัดฟันแบบกำหนดเองที่ผลิตจากพลาสติกเกรดพิเศษทางการแพทย์ที่ปรับฟันของคุณ ให้ตรงเพื่อแทนที่เครื่องมือจัดฟันโลหะธรรมดา ซึ่งอินวิสไลน์ (Invisalign) ให้การจัดแนวฟันด้วยความแม่นยำ และการคาดการณ์ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ Clincheck® เมื่อตรวจพบการเรียงตัวของฟันหรือการสบฟันที่ผิดปกติที่จำเป็นต้องแก้ไขด่วน เช่น ฟันซ้อน ฟันเก ฟันห่าง ฟันล่างสบคร่อมฟันบน ฟันกัดเบี้ยว หรือฟันบนที่ยื่นมากผิดปกติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการยิ้ม

อย่างไรก็ตาม การเลือกประเภทการจัดฟันจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของปัญหา แนวทางการรักษา รวมถึง ไลฟ์สไตล์ของแต่ล่ะบุคคล การจัดฟันในแต่ละแบบนั้นสามารถทำได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ผู้ที่มีปัญหาของฟันควรได้รับการตรวจการสบฟันจากทันตแพทย์ทั่วไป และได้รับการส่งต่อมายังทันตแพทย์จัดฟันทันทีที่สังเกตพบปัญหาการสบฟัน การจัดฟันส่วนใหญ่มักเริ่มทำในเด็กโดยอายุประมาณ 6 - 12 ปี ซึ่งเริ่มมีฟันแท้เริ่มขึ้นร่วมกับฟันน้ำนม ซึ่งจะช่วยให้แก้ไขปัญหาของฟันได้ง่ายกว่า



ทพ.วุฒิพงษ์ เหล่าอมต
ทันตกรรมทั่วไป/ทันตกรรมจัดฟัน
ศูนย์ทันตกรรม






ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย




Share :

แพ็กเกจ/โปรโมชั่น

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย