กำจัดขนต้อนรับซัมเมอร์ด้วยเทคโนโลยี FOTONA 4D

เชื่อว่าปัญหาขนที่ไม่พึงประสงค์เป็นสิ่งที่สาวๆ หลายคนต้องเผชิญ ไม่เพียงสร้างความรำคาญ แต่ยังทำให้สูญเสียความมั่นใจ ทำให้เป็นข้อจำกัดในการแต่งตัวในสไตล์ที่เราชอบ อยากจะใส่เสื้อโชว์ใต้วงแขนแต่ก็มีขนรักแร้ หรือหนังไก่ อยากใส่บิกินี่เที่ยวทะเลแต่ก็มีขนน้องหนูมากวนใจ แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยเทคโนโลยีกำจัดขนด้วยเครื่อง FOTONA 4D

ขนบริเวณใดบ้างที่สาวๆ ไม่พึงประสงค์

1. ขนขาและขนแขน

โดยเฉพาะขนขาที่ดกดำและเส้นยาวมากเกินไป ย่อมทำให้เหล่าสาวๆ ขาดความมั่นใจ อยากจะใส่กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้นโชว์เรียวขาก็ทำไม่ได้ เพราะอายขนขาที่ยากจะกำจัดได้อย่างสิ้นซาก เพราะต่อให้โกน ให้แว็กซ์ สุดท้ายขนก็ยังกลับมารบกวนใหม่อยู่ดี

2. ขนรักแร้

ปัญหาขนรักแร้เป็นสิ่งที่กวนใจสาวๆ หลายคนเลยทีเดียว ส่วนใหญ่สาวๆ มักจะแก้ไขด้วยการถอน ซึ่งผลที่ตามมาจะทำให้เกิดหนังไก่ ผิวหนังบริเวณรักแร้ไม่เรียบเนียน ทำให้เสียความมั่นใจ ไม่กล้าที่จะใส่เสื้อผ้าที่สามารถโชว์ใต้วงแขนได้

3. ขนบริเวณใบหน้า และขนหนวด

สาวๆ หลายคนที่มีขนบริเวณใบหน้าเยอะ ปัญหาที่พบบ่อยๆ คือแต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางไม่ค่อยติด แถมยังทำให้รูขุมขนกว้างและเป็นสาเหตุของการเกิดสิวเสี้ยนหรือสิวอุดตันตามมา ซึ่งขนบริเวณใบหน้าและหนวดเป็นจุดที่กำจัดได้ยาก ไม่ควรใช้การโกน หรือแม้แต่การแว็กซ์ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้

4. ขนในที่ลับหรือขนบิกินี่

สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการว่ายน้ำ หรือชอบสวมใส่ชุดว่ายน้ำที่ต้องโชว์รูปร่าง เมื่อมีขนบริเวณนี้มากเกินไปอาจทำให้เสียความมั่นใจได้ หรือแม้แต่สาวๆ ทั่วไปก็อาจจะกังวลเพราะกลัวว่าแฟนจะไม่ชอบ ทำให้ขาดความมั่นใจได้ อย่างไรก็ตามขนบริเวณนี้มีประโยชน์ในเรื่องของการลดการเสียสีและช่วยลดกลิ่นอับในที่ลับได้ หากสาวๆ คิดกำจัดขนส่วนนี้ ไม่ควรกำจัดหมด ไม่อย่างนั้นอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี

ข้อดี-ข้อเสีย ของการกำจัดขนแต่ละแบบที่สาวๆ ควรรู้

1. การถอน เป็นวิธีดั้งเดิม โดยใช้อุปกรณ์ ได้แก่ แหนบ คีม เส้นด้าย หรืออุปกรณ์ถอนขนชนิดต่างๆ ซึ่งได้รับความนิยม มีการรับจ้างถอนขนตามร้านค้า ร้านเสริมสวยหรือรับจ้างตามบ้านก็มี
   • ข้อดี - ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย
   • ข้อเสีย - เจ็บ หากทำเองอาจไม่ค่อยสะดวก หลังถอนอาจเกิดจุดแดงๆ คัน เจ็บ หรือหากอุปกรณ์ถอนและวิธีถอนไม่สะอาด อาจเกิดการอักเสบหรือเป็นฝีได้
2. การโกน วิธีนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะง่ายที่สุด ทั้งยังมีอุปกรณ์สำหรับโกนชนิดใหม่ๆ ให้เลือกมากมาย เช่น มีดโกน เครื่องโกนไฟฟ้า
   • ข้อดี – สะดวก รวดเร็ว
   • ข้อเสีย – ขนขึ้นเร็วและเป็นขนที่เส้นใหญ่ขึ้น หากไม่โกนซ้ำทุกวันจะขึ้นเป็นตอ
3. การใช้ครีมกำจัดขน เป็นการสลายเส้นขนให้กลายเป็นเจล แล้วเช็ดหรือล้างออก มักใช้สารไทโอไกลโคเลต (Thioglycolate) สลายส่วนประกอบของขนที่เป็นกำมะถัน (Disulfide Bond)
   • ข้อดี – สะดวก รวดเร็ว ขนขึ้นช้ากว่าการโกน
   • ข้อเสีย – ในครีมกำจัดขนมีสารเคมี มักทำให้ระคายเคืองผิว เจ็บ แสบ คัน บางคนไวต่อสารเคมีมาก หลังทำผิวจะมีสีคล้ำ และเนื่องจากวิธีนี้ไม่ทำลายการสร้างขน ขนมักจะขึ้นใหม่ภายในสองสัปดาห์ และขนที่ขึ้นใหม่จะมีเส้นใหญ่กว่าเดิม
4. การแว็กซ์ด้วยน้ำผึ้ง หลักการคล้ายการถอนขนเพียงแต่ใช้อุปกรณ์แว็กซ์ขน ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบร้อนและแบบเย็น โดยการทาแล้วดึงแว็กซ์ออก ขนก็จะหลุดออกมาด้วย
   • ข้อดี – ประมาณ 2-3 สัปดาห์ขนจะขึ้นใหม่ด้วยเส้นขนที่บางลง
   • ข้อเสีย – ขั้นตอนอาจจะยุ่งยาก และหลังการแว็กซ์อาจเกิดขนคุดได้
5. ใช้เลเซอร์กำจัดขน วิธีนี้เป็นการใช้แสงและความร้อนทำลายถึงเซลล์สร้างขน จึงเป็นการกำจัดขนอย่างถาวร จากงานวิจัยพบว่า การทำเลเซอร์กำจัดขนเพียงครั้งเดียวจะทำให้ขนงอกน้อยกว่าเดิมประมาณ 30% หากทำเลเซอร์กำจัดขนหลายครั้ง ส่วนใหญ่ขนมักไม่ขึ้นถาวร
   • ข้อดี – หากเข้ารับการรักษาประมาณ 4-8 ครั้ง โดยเว้นระยะตามแต่ปัญหาขนของแต่ละบุคคลและดุลพินิจของแพทย์ จะสามารถกำจัดขนได้อย่างถาวร หรือขนจะไม่เกิดการเจริญเติบโตเป็นระยะเวลาหลายปี หรือขนที่เกิดขึ้นจะเส้นเล็กมากจนไม่สามารถสังเกตได้เด่นชัด
   • ข้อเสีย – มีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าวิธีอื่นๆ

เทคโนโลยีกำจัดขนด้วยเครื่อง FOTONA 4D

FOTONA 4D คือเทคโนโลยีเลเซอร์ในรูปแบบใหม่ที่สามารถรักษาปัญหาด้านความงามของสาวๆ ที่ครบทุกมิติ หนึ่งในนั้นคือการ “กำจัดขน” ที่ได้ประสิทธิภาพสูง โดยอาศัยพลังงานจากแสง Nd : Yag 1064 nm ไปทำลายรากขนชั้นลึกเพื่อหยุดการเจริญเติบโตของขนได้

การทำเลเซอร์กำจัดขนอันตรายไหม มีผลข้างเคียงหรือเปล่า?

แสงเลเซอร์ที่นำมาใช้นั้นมีความปลอดภัยสูง ไม่ทำให้เกิดโรคมะเร็งและไม่เป็นอันตรายอย่างที่หลายคนกังวล ผลค้างเคียงที่พบได้ เช่น อาการไหม้ที่ผิวหนัง หากใช้พลังงานสูงเกินไป หลังทำ laser อาจมีอาการบวมแดงตามรูขุมขนได้ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1-2 วัน

การทำเลเซอร์กำจัดขนเห็นผลจริงหรือและต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ ?

หลังเลเซอร์ ขนรักแร้จะขึ้นช้าลง เส้นเล็กลง เส้นบางลงและสีอ่อนลง พอเลเซอร์ครั้งแรกไปแล้ว ครั้งต่อไปคุณหมอจะทำการนัดทำเลเซอร์ในอีก 1 เดือนข้างหน้า ส่วนครั้งที่สามจะห่างไปอีกประมาณ 1 เดือนครึ่ง และครั้งที่ 4 จะห่างออกไปอีก 2 เดือน ซึ่งสาวๆ บางคนที่มาทำเลเซอร์นี้เพียงแค่ 4 ครั้งขนก็แทบจะหมดแล้ว ในขณะที่บางคนต้องทำเลเซอร์ถึงประมาณ 8 ครั้ง ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน