เทคโนโลยี O-arm Navigation เปลี่ยนการผ่าตัดกระดูกสันหลังให้เป็นเรื่องง่าย

ศูนย์ : ศูนย์กระดูกสันหลัง

บทความโดย : นพ. สิทธิพงษ์ สุทธิอุดม

เทคโนโลยี O-arm Navigation เปลี่ยนการผ่าตัดกระดูกสันหลังให้เป็นเรื่องง่าย

การผ่าตัดกระดูกสันหลังในอดีต ต้องใช้ความระมัดระวังสูง เนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อระบบประสาทขณะผ่าตัดได้ แพทย์จำเป็นต้องเปิดแผลยาวที่กลางหลัง และต้องทำการเลาะกล้ามเนื้อออกจากกระดูกเป็นบริเวณกว้างเพื่อให้เห็นโครงสร้าง และทำการผ่าตัดได้สะดวก ซึ่งการเลาะกล้ามเนื้อนี้เองเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยมีความเจ็บจากการผ่าตัดมากและทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้ช้า แต่ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดที่ทันสมัยในปัจจุบันได้นำ “โอ-อาร์ม เนวิเกชั่น (O-arm Navigation)” เครื่องช่วยผ่าตัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์นำวิถี เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในระหว่างการผ่าตัดโรคกระดูกสันหลัง ตั้งแต่การวางแผนเพื่อวางตำแหน่งสกรู ความแม่นยำในการผ่าตัดและการมองเห็นโครงสร้างของร่างกายได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ช่วยให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม




เครื่องโอ-อาร์ม เนวิเกชั่น (O-arm Navigation) คืออะไร

โอ-อาร์ม เนวิเกชั่น (O-arm Navigation) คือ เครื่องช่วยผ่าตัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์นำวิถี หรือ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบสามมิติ ที่จะทำการบันทึกภาพกระดูกสันหลังขณะศัลยแพทย์กำลังผ่าตัดผู้ป่วย ภาพที่ได้จะเป็นภาพที่ชัดเจน แสดงตำแหน่งของกระดูกสันหลังอย่างละเอียด ทั้งแนวตั้ง แนวนอน ภาพตัดขวาง และแปลงภาพออกมาในรูปแบบแอนิเมชันสามมิติ แสดงตำแหน่งของกระดูกสันหลังแบบละเอียด ทำให้แพทย์สามารถทำการผ่าตัดได้ตรงตามตำแหน่ง ที่สำคัญสามารถกำหนดตำแหน่งที่ถูกต้องในการใส่โลหะ แม้ว่ากระดูกสันหลังจะผิดรูปอย่างรุนแรงก็ตาม ถือเป็นการช่วยในการผ่าตัดได้แม่นยำยิ่งขึ้น


เครื่องโอ-อาร์ม เนวิเกชั่น (O-arm Navigation) ทำงานอย่างไร

การทำงานของเครื่องโอ-อาร์ม เนวิเกชั่น (O-arm Navigation) นั้นสามารถเคลื่อนที่ได้ในห้องผ่าตัดโดยเครื่องจะทำการสแกนกระดูกสันหลังในระดับที่ต้องการผ่าตัด หรือต้องการใส่โลหะยึดตรึงกระดูกสันหลังโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็จะส่งภาพทั้งหมดกว่า 600 ภาพเข้าสู่คอมพิวเตอร์แปลผลสร้างภาพสามมิติเสมือนจริงให้ศัลยแพทย์เห็นไนแง่มุมที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลังจากนั้นศัลยแพทย์ก็จะทำการผ่าตัดใส่อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อยึดกับกระดูกสันหลังได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ

นอกจากนี้เครื่องโอ-อาร์ม เนวิเกชั่น (O-arm Navigation) ยังสามารถสร้างภาพแบบสามมิติบันทึกภาพในขณะผ่าตัดกระดูกสันหลังจริงขณะที่ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียง ผ่าตัด ซึ่งเป็นภาพที่ชัดเจนอยู่ตลอดเวลา เครื่องมือนี้จะช่วยให้แพทย์กำหนดจุดต่างๆ ในกระดูกสันหลังได้มากถึงระดับเศษส่วนของมิลลิเมตร ทั้งทิศทางการใส่ ความลึก ความหนา ทำให้สามารถวางโลหะช่วยเชื่อมกระดูกได้แม่นยำ


ทำไมต้องใช้เครื่องโอ-อาร์ม เนวิเกชั่น (O-arm Navigation)

ด้วยการใช้เครื่องช่วยผ่าตัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์นำวิถี โอ-อาร์ม เนวิเกชั่น (O-arm Navigation) นี้ในการผ่าตัดกระดูกสันหลัง ทำให้การผ่าตัดทางกระดูกสันหลังที่ได้ชื่อว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อน อันตราย สามารถทำได้อย่างปลอดภัย แม่นยำ และนอกจากนี้ยังทำให้ลดเวลาการผ่าตัดลง โดยไม่ต้องเปิดแผลใหญ่ เสียเลือดลดลง ผู้ป่วยสามารถฟื้นฟูร่างกายหลังการผ่าตัดกระดูกสันหลังได้ในเวลารวดเร็ว ที่สำคัญเครื่องนี้จะช่วยลดการเกิดภาวะการแทรกซ้อนจากการใส่โลหะในกระดูกสันหลังลงไปได้อย่างชัดเจน และเป็นผลดี ต่อบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย เนื่องจากได้รับรังสีน้อย


เครื่องโอ-อาร์ม เนวิเกชั่น ใช้ในการผ่าตัดใดบ้าง

เครื่องช่วยผ่าตัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์นำวิถี โอ-อาร์ม เนวิเกชั่น (O-arm Navigation) ใช้ในการผ่าตัดกระดูกสันหลัง รากประสาท ไขสันหลัง ทุกโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดที่จะต้องใช้โลหะ หรืออุปกรณ์เข้าไปยึดกระดูกสันหลัง อาทิ โรคกระดูกสันหลังผิดรูป โรคกระดูกสันหลังคด การผ่าตัดเชื่อมข้อกระดูกสันหลังส่วนเอว กระดูกสันหลังเสื่อมรุนแรง เป็นต้น


ปัจจุบัน ศูนย์กระดูกสันหลัง รพ.นครธน ได้นำเครื่องช่วยผ่าตัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์นำวิถี โอ-อาร์ม เนวิเกชั่น (O-arm Navigation) ในการผ่าตัดกระดูกสันหลัง เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการใส่โลหะในผู้ป่วย มารวมกับความชำนาญของศัลยแพทย์ด้านกระดูกสันหลัง ทำให้มีความแม่นยำและปลอดภัยในการผ่าตัดสูง ช่วยให้ผู้ป่วยรักษาได้อย่างราบรื่น ลดขนาดของแผล ทำให้มีความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดน้อยลง ฟื้นฟูร่างกายได้ในเวลารวดเร็ว





ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย




Share :

แพ็กเกจ/โปรโมชั่น

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย