ภาวะแท้งคุกคาม ภาวะอันตรายเกิดได้กับหญิงตั้งครรภ์ทุกคน
ศูนย์ : ศูนย์สุขภาพสตรี
บทความโดย : พญ. สังวาลย์ เตชะพงศธร
					ภาวะแท้งคุกคาม สามารถเกิดขึ้นได้กับหญิงตั้งครรภ์ทุกคน โดยเฉพาะอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ อาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงที่มาจากทารกในครรภ์ จากหญิงตั้งครรภ์ หรือ จากสามีเองก็ได้ โดยหญิงตั้งครรภ์จะมีเลือดออกทางช่องคลอดแบบกะปริดกะปรอยโดยที่ปากมดลูกยังปิดอยู่ และมีอาการปวดท้องน้อยหรืออาจไม่มีอาการปวดท้องเลย จึงทำให้สับสนได้ว่าเป็นประจำเดือนหรือไม่ ฉะนั้นเพื่อป้องกันภาวะแท้งคุกคาม เมื่อสงสัยหรือทราบว่าตั้งครรภ์ให้มาฝากครรภ์กับสูตินรีแพทย์ทันที
สารบัญ
ภาวะแท้งคุกคาม เป็นอย่างไร
ภาวะแท้งคุกคาม (Threatened abortion) คือ ภาวะผิดปกติของการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 28 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ มักพบบ่อยในอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ โดยหญิงตั้งครรภ์จะมีอาการเลือดออกทางช่องคลอด ซึ่งอาจเป็นเลือดสดหรือมูกเลือด และอาจมีเลือดออกน้อย มีเลือดออกระปริกระปรอยเป็นระยะเวลาหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์ หรือ บางรายมีเลือดออกเยอะ และมักจะไม่มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ในขณะที่ปากมดลูกยังไม่เปิด แต่ในบางรายอาจมีอาการปวดหน่วงท้องน้อยคล้ายปวดประจำเดือน ปวดบีบๆรัดๆ ตรงกลางท้องน้อยเป็นๆหายๆ หรือปวดร้าวไปหลังได้
สาเหตุของภาวะแท้งคุกคาม
- เกิดจากความผิดปกติทารกในครรภ์ เช่น ความผิดปกติของโครโมโซม ความพิการแต่กำเนิด เป็นต้น
 - เกิดจากความผิดปกติของหญิงตั้งครรภ์ อาทิ
		
- การมีโรคประจำตัวที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น เบาหวาน ความดัน ไตวายเรื้อรัง เป็นต้น
 - อายุของหญิงตั้งครรภ์ ทั้งอายุน้อยไปและอายุมากไป โดยอายุน้อยไปฮอร์โมนยังผลิตออกมาไม่ได้อย่างเต็มที่เหมือนกับวัยเจริญพันธุ์ ส่วนอายุที่มาก ฮอร์โมนลดลงน้อยเกินไปเสี่ยงภาวะแท้งคุกคามได้ง่ายขึ้น
 - ความผิดปกติของมดลูกและโพรงมดลูก หรือ การได้รับการผ่าตัดอวัยวะสืบพันธุ์ภายในก่อนการตั้งครรภ์ เช่น พังผืดในโพรงมดลูก มดลูกมีรูปร่างผิดปกติตั้งแต่กาเนิด การผ่าตัดมดลูก
 - ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ ความผิดปกติของฮอร์โมน
 - ปัจจัยอื่นๆ เช่น ความเครียด อุบัติเหตุที่กระทบต่อมดลูกหรือบริเวณท้องน้อย ดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือการใช้สารเสพติด เป็นต้น
 
 - เกิดจากความผิดปกติสามี เช่น กลุ่มเลือดมีปัญหาหรืออสุจิของคุณพ่อผิดปกติ
 
วิธีสังเกตภาวะแท้งคุกคาม
- มีเลือดออกทางช่องคลอด เช่น เลือดออกเปื้อนกางเกงชั้นใน
 - ปวดท้องน้อย หรือ ปวดหลัง (แต่เกิดได้น้อยมาก)
 - พบว่าปากมดลูกไม่เปิดขยาย
 
การวินิจฉัยและรักษา
หญิงตั้งครรภ์ทุกรายที่พบว่าตนเองมีเลือดออกทางช่องคลอด ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุและเพื่อจะได้รับคำแนะนำหรือการรักษาที่ถูกต้องต่อไป รวมทั้งทำการวินิจฉัยแยกโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของหญิงตั้งครรภ์ได้ โดยรักษาหากพบว่าเลือดออกไม่เยอะจะให้พักผ่อน และหากเกิดจากฮอร์โมนไม่เพียงพอ จะให้ยาเพิ่มฮอร์โมนโดยฉีดวันเว้นวันจนกว่าจะไม่มีภาวะเลือดออก หรือจนกว่าเลือดหยุด เป็นต้น
การป้องกันการเกิดภาวะแท้งคุกคาม
- เมื่อมีการตั้งครรภ์ให้เข้ามาฝากครรภ์ทันที
 - เจาะเลือดตรวจหาความผิดปกติของฮอร์โมน
 - รับการรักษาต่อเนื่องในหญิงตั้งครรภ์ที่มีโรคประจำตัว
 - หญิงตั้งครรภ์ควรให้ประวัติความผิดปกติหรือการผ่าตัดของอวัยวะสืบพันธุ์ภายใน เช่น ผ่าตัดมดลูก รังไข่ เป็นต้น
 - ตรวจโครโมโซมหาความผิดปกติของทารกในรายที่มีประวัติเสี่ยง
 - ระวังโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
 
การดูแลตนเองของผู้ที่มีภาวะแท้งคุกคาม
- นอนพัก ภายใน 24-48 ชั่วโมง (ขึ้นกับปริมาณเลือดที่ออกและการหดรัดตัวของมดลูก)
 - ตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง เพื่อประเมินสุขภาพทารก
 - ลดกิจกรรมต่างๆ เช่น ยกของหนัก เดินนาน เป็นต้น
 - สังเกตและประเมินเลือดที่ออกทางช่องคลอด
 - ได้รับการวัดและประเมินสัญญาณชีพ
 - ห้ามสวนล้างช่องคลอด สวนอุจจาระ หรือตรวจภายใน
 - ระวังโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
 - ระวังการได้รับสารพิษหรือสารเสพติด
 - ระมัดระวังอุบัติเหตุ หรือการเดินนานๆ
 - ระวังอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเสีย
 - ทำจิตใจให้สบาย และผ่อนคลายความเครียด
 
อย่างไรก็ตาม หากมีเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่ทราบสาเหตุควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที ทั้งนี้การฝากครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ และพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอสามารถลดความเสี่ยงของภาวะแท้งคุกคาม และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ สามารถปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลจากแพทย์ออนไลน์ได้เลย
		ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์ 
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
		บทความทางการแพทย์ศูนย์สุขภาพสตรี
