ลดอาการปวดหลังโดยการใช้คลื่นความถี่วิทยุ โดยไม่ต้องผ่าตัด

อาการปวดจากปัญหากระดูกสันหลังไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยเฉพาะอาการจากโรคหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาท หรือโพรงประสาทตีบแคบทับเส้นประสาท หากปล่อยทิ้งไว้นานก็ยิ่งปวดหลังเรื้อรังและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่อาการปวดหลังที่รุนแรงไม่ได้บ่งชี้ว่าต้องผ่าตัดเสมอไป ส่วนใหญ่มีวิธีรักษาให้หายได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และหนึ่งในนั้นคือ การลดอาการปวดหลังโดยการใช้คลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยรักษาและบรรเทาอาการปวดหลัง

การลดอาการปวดหลังโดยการใช้คลื่นความถี่วิทยุ

การลดอาการปวดหลังโดยการใช้คลื่นความถี่วิทยุ หรือที่เรียกว่า Radiofrequency Ablation (RFA) คือ การจี้เส้นประสาทด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เป็นวิธีการลดการอักเสบของข้อต่อกระดูกสันหลัง และบรรเทาอาการปวดบริเวณคอและหลังด้วยการใช้ความร้อนที่ได้จากคลื่นความถี่วิทยุจี้ตำแหน่งของข้อต่อกระดูก ข้อต่อเชิงกราน หรือเส้นประสาทที่เป็นสาเหตุของความปวด เป็นวิธีที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด

วิธีการรักษา

แพทย์จะทำการซักถามประวัติอาการและตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุของอาการปวด เพื่อประเมินว่าจะใช้วิธีการรักษาแบบนี้กับผู้ป่วยได้หรือไม่ หลังจากนั้นแพทย์จะทำการฉีดยาชาเข้าไปบริเวณที่มีอาการปวด แล้วดูว่าอาการปวดนั้นหายหรือไม่ หากอาการปวดดีขึ้นชัดเจน แสดงว่าการรักษาด้วยวิธีนี้น่าจะได้ประโยชน์ ก็จะนัดมาทำการรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุต่อไป

ขั้นตอนในการรักษานั้น จะใช้คลื่นความร้อนที่ได้จากคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency Ablation: RFA) จี้ไปยังเส้นประสาทเพื่อขัดขวางการส่งสัญญาณความปวดในไขสันหลังก่อนไปถึงสมอง จะใช้เวลาในการทำหัตถการประมาณ 1 ชั่วโมง และหลังทำหัตถการผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ควรมีผู้ร่วมเดินทางกลับบ้านด้วยและไม่ควรขับขี่รถยนต์ในวันนั้น

จะรักษาด้วยวิธีนี้ได้เมื่อใด

ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาด้วยการฉีดยาบำบัดความปวดแบบอื่นๆ และทำกายภาพบำบัด มาก่อนแล้วแต่อาการยังไม่ดีขึ้น หรือสามารถลดปวดได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ ก็จะพิจารณาใช้การรักษาโดยการใช้คลื่นความถี่วิทยุ นอกจากนี้ผู้ป่วยที่สุขภาพร่างกายไม่เอื้ออำนวยต่อการผ่าตัด เช่น มีความดันสูง เป็นเบาหวาน กลัวการติดเชื้อ การรักษาอาการปวดหลังโดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดอาการเจ็บปวด และลดความเสี่ยงในการรักษาด้วยวิธีผ่าตัด เพราะเป็นการรักษาโดยใช้เข็มเป็นหลัก ไม่ได้ใช้มีด การบาดเจ็บของเนื้อเยื่อจึงน้อยกว่า

ผลจากการรักษา

ผลการรักษาโดยเฉลี่ยอาการปวดจะบรรเทาลงไป 6-9 เดือน และอัตราประสบผลสำเร็จจะอยู่ที่ 85% แต่ระดับของอาการปวดที่บรรเทาลงไปจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และอาจใช้เวลาถึง 3 สัปดาห์ก่อนอาการปวดจะบรรเทาลงมากที่สุดอย่างชัดเจน การรักษานี้อาจทำซ้ำได้หากอาการปวดบรรเทาลงไปนานกว่า 6 เดือนในแต่ละครั้ง

ป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดหลังซ้ำอีก

การป้องกันอาการปวดหลังจากโรคหมอนรองกระดูกสันหลัง หรือโพรงประสาทตีบแคบทับเส้นประสาท คือ หลีกเลี่ยงหรือลดปัจจัยเสี่ยง เช่น กิจกรรมที่ทำให้เกิดอาการปวดได้แก่ การนั่งหรือยืนติดต่อกันเป็นเวลานานๆ งดเว้นกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่ทำให้เกิดแรงกระทำต่อหลังมากๆ เช่น ก้มหลังยกของ และบริหารกล้ามเนื้อหลังให้มีความแข็งแรงและยืดหยุ่น ตามแพทย์ และนักกายภาพบำบัดแนะนำ และ

• ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกิดโรคอ้วน และน้ำหนักตัวเกิน เพื่อลดแรงกดกระแทกต่อหมอนรองกระดูกจากน้ำหนักตัว
• ออกกำลังกายอย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ
• รู้จักท่านั่ง ยืน ก้ม ยกของหนักที่ถูกต้อง
• งดหรือเลิกบุหรี่
• กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมในทุกๆ มื้อ

การลดอาการปวดหลังโดยการใช้คลื่นความถี่วิทยุ เป็นการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการผ่าตัด ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล และเป็นอีกทางเลือกในการลดอาการปวดกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยเหล่านั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยไม่ต้องรับประทานยาแก้ปวดทุกวัน

นพ.ธีรฉัตต์ ธนะสารสมบูรณ์
แพทย์ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์/กระดูกสันหลัง
ศูนย์กระดูกสันหลัง

ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย