การฉีดวัคซีนจะช่วยกระตุ้นร่างกายให้สร้างภูมิคุ้มกันต่อโรค เมื่อเด็กๆ ได้รับวัคซีนแล้วจะทำให้โอกาสป่วยเป็นโรคติดต่อต่างๆ ลดลงอย่างมาก เด็กจำเป็นต้องได้รับวัคซีนทุกคนตั้งแต่แรกเกิด ฉะนั้นไม่ควรละเลยเรื่องการฉีดวัคซีน โดยวัคซีนที่ต้องฉีดนั้นจะมีทั้งวัคซีนพื้นฐานและวัคซีนเสริม ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่มาเช็คดูกันว่าลูกน้อยของคุณฉีดวัคซีนกันหรือยัง ถ้ายังสามารถเข้ารับคำปรึกษากับกุมารแพทย์ได้ว่าจะต้องฉีดกี่เข็ม ฉีดห่างกันกี่เดือน พร้อมรับวัคซีนตามเกณฑ์อายุที่กำหนดกันได้เลย
	 
		
			
					
						| อายุ | ชนิดวัคซีน | 
				
				
					
						| เด็กแรกเกิด | 
								วัคซีนโรคตับอักเสบบี (HB1) ควรฉีดให้เร็วที่สุด ภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอดวัคซีนป้องกันวัณโรค (BCG) ฉีดให้เด็กก่อนออกจากโรงพยาบาล | 
					
						| 1 เดือน | 
								วัคซีนโรคตับอักเสบบี (HB2) โดยเฉพาะรายที่มารดาเป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบี | 
					
						| 2 เดือน | 
								วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ (DTP-HB-Hib1) ครั้งที่ 1วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV1) ครั้งที่ 1วัคซีนเสริมโรต้า ป้องกันอุจจาระร่วง (Rota1) ครั้งที่ 1วัคซีนเสริมป้องกันโรคปอดบวม IPD ครั้งที่ 1 หมายเหตุ : ห้ามให้วัคซีนโรต้าครั้งที่ 1 ในเด็กอายุมากกว่า 15 สัปดาห์
 | 
					
						| 4 เดือน | 
								วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ (DTP-HB-Hib2) ครั้งที่ 2วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV2) ครั้งที่ 2วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด (IPV)วัคซีนเสริมโรต้า ป้องกันอุจจาระร่วง (Rota2) ครั้งที่ 2วัคซีนเสริมป้องกันโรคปอดบวม IPD ครั้งที่ 2 หมายเหตุ :
 
								ให้วัคซีนโปลิโอชนิดฉีด 1 เข็ม พร้อมกับวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน 1 ครั้งห้ามให้วัคซีนโรต้าครั้งสุดท้าย ในอายุมากกว่า 32 สัปดาห์ | 
					
						| 6 เดือน | 
								วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน-ตับอักเสบบี-ฮิบ (DTP-HB-Hib3) ครั้งที่ 3วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV3) ครั้งที่ 3วัคซีนเสริมโรต้า ป้องกันอุจจาระร่วง (Rota3) ครั้งที่ 3วัคซีนเสริมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ครั้งที่ 1วัคซีนเสริมป้องกันโรคปอดบวม IPD ครั้งที่ 3 หมายเหตุ :
 
								ห้ามให้วัคซีนโรต้าครั้งสุดท้าย ในอายุมากกว่า 32 สัปดาห์วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ถ้าอายุน้อยกว่า 9 ปี ฉีดครั้งแรกต้องฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน หลังจากนั้นฉีดปีละครั้ง | 
					
						| 9 เดือน | 
								วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR1) ครั้งที่ 1 หมายเหตุ : หากไม่ได้ฉีดเมื่ออายุ 9 เดือน ให้รีบตามฉีดโดยเร็วที่สุด
 | 
					
						| 12-15 เดือน | 
								วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี (JE1) ครั้งที่ 1วัคซีนเสริมป้องกันโรคปอดบวม IPD กระตุ้นครั้งสุดท้ายวัคซีนเสริมป้องกันโรคอีสุกอีใส (VZV1) ครั้งที่ 1วัคซีนตับอักเสบเอ (HAV1) ครั้งที่ 1 | 
					
						| 1 ปีครึ่ง | 
								วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (DTP4) ครั้งที่ 4วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV4) ครั้งที่ 4 | 
					
						| 1 ปีครึ่ง - 2 ปี | 
								วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี (JE2) ครั้งที่ 2วัคซีนตับอักเสบเอ (HAV2) ครั้งที่ 2 | 
					
						| 2 ปีครึ่ง | 
								วัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR2) ครั้งที่ 2วัคซีนเสริมป้องกันโรคอีสุกอีใส (VZV2) ครั้งที่ 2 | 
					
						| อายุ 4-6 ปี | 
								วัคซีนรวมป้องกันคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน (DTP5) ครั้งที่ 5วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดรับประทาน (OPV5) ครั้งที่ 5 | 
					
						| 11 ปี (ป.5) | 
								หมายเหตุ : ระยะห่างระหว่างเข็ม ห่างกันอย่างน้อย 6-12 เดือนวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกจากเชื้อเอชพีวี (HPV) จำนวน 2 เข็ม | 
					
						| 12 ปี (ป.6) | 
								วัคซีนรวมคอตีบ-บาดทะยัก (Td) | 
				
		
	 
	
	สำหรับวัคซีนเสริมอื่นๆ ได้แก่ 
	
		
			
				
					| อายุ | ชนิดวัคซีน | 
			
			
				
					| 6 เดือน - 5 ปี | 
							วัคซีนมือเท้าปาก จากเชื้อไวรัสเอนเทอโรไวรัส 71 (อีวี 71) จำนวนฉีด 2 เข็ม  โดยฉีดระยะห่างกัน 1 เดือน | 
				
					| อายุ 9 ปีขึ้นไป | 
							วัคซีนไข้เลือดออก (DEN) จำนวน 2 หรือ 3 เข็ม ขึ้นอยู่กับชนิดวัคซีน โดยฉีดระยะห่างกัน 6 เดือน  | 
				
					| ทุกช่วงอายุ | 
							วัคซีนพิษสุนัขบ้าก่อนสัมผัสโรค  ฉีดจำนวน 2 เข็ม ห่างกันอย่างน้อย 7 วัน (วันที่ 0,7)  | 
			
		
	 
	
	วัคซีนดังกล่าวข้างต้นนี้จะทำหน้าที่ป้องกันและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ให้กับลูกน้อยของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถพาลูกน้อยของคุณไปรับวัคซีนตามกำหนดเพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว