ภูมิแพ้อากาศ โรคที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากเป็น
ศูนย์ : บริการทางการแพทย์ด้านภูมิแพ้, ศูนย์สุขภาพเด็ก
บทความโดย : พญ. วราลี ผดุงพรรค

เมื่ออากาศเปลี่ยนทีไร อาการคัดจมูก จาม น้ำมูกไหล คันตา หรือคันจมูกก็มาทุกที ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดู อากาศเย็นลงกะทันหัน หรือแม้แต่เมื่อเผชิญกับ ฝุ่น PM 2.5 ที่ปกคลุมอยู่ทั่วไป อาการที่กล่าวมาข้างต้นอาจเป็นสัญญาณของ ภูมิแพ้อากาศ (Allergic Rhinitis) ที่สร้างความรำคาญและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประจำวันอย่างมาก บทความนี้จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับภูมิแพ้อากาศทั้งสาเหตุ อาการ และวิธีแก้ไข หากใครสงสัยว่าจะเป็นภูมิแพ้อากาศ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อเข้ารับการทดสอบภูมิแพ้ วินิจฉัยสาเหตุของอาการ และดำเนินการรักษาต่อไป
สารบัญ
- ภูมิแพ้อากาศ คืออะไร?
- ภูมิแพ้อากาศมีกี่ประเภท
- สาเหตุหลักของภูมิแพ้อากาศ
- อาการของภูมิแพ้อากาศ
- ลักษณะอาการของภูมิแพ้อากาศ
- วิธีการทดสอบภูมิแพ้อากาศ
- การรักษาโรคภูมิแพ้อากาศ
- วิธีดูแลตัวเองและป้องกันโรคภูมิแพ้อากาศ
- ภาวะแทรกซ้อนจากโรคภูมิแพ้อากาศ
- ภูมิแพ้อากาศ ชนะได้ด้วยการเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
- ปรึกษาปัญหาสุขภาพ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ภูมิแพ้อากาศ คืออะไร?


ภูมิแพ้อากาศ (Allergic Rhinitis) หรือที่เรียกว่า ‘จมูกอักเสบจากภูมิแพ้’ คือ ภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองไวเกินไปต่อสารบางชนิดที่อยู่ในอากาศ สารเหล่านี้เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ (Allergens) ซึ่งโดยปกติแล้วจะไม่เป็นอันตรายต่อคนทั่วไป
แต่เมื่อผู้ป่วยภูมิแพ้อากาศสูดดมสารก่อภูมิแพ้เข้าไป ระบบภูมิคุ้มกันจะเข้าใจผิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอมที่เป็นอันตราย และจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารเคมีบางอย่างออกมา โดยเฉพาะ ‘ฮิสตามีน (Histamine)’ ซึ่งเป็นสาเหตุของการอักเสบของเยื่อบุจมูก และก่อให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมา
ภูมิแพ้อากาศมีกี่ประเภท
โรคภูมิแพ้อากาศ หรือในทางการแพทย์เรียกว่า โรคภูมิแพ้จมูกอักเสบ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- จมูกอักเสบจากภูมิแพ้ คือ การแพ้สารก่อภูมิแพ้อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ไรฝุ่น ขนสุนัข ขนแมว ซึ่งจะมากระตุ้นให้จมูกมีการอักเสบเรื้อรัง ส่งผลให้มีอาการจาม คัดจมูก เป็นต้น
- จมูกอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากสารก่อภูมิแพ้ อาจเกิดจากการกินอาหารเผ็ด ควันบุหรี่ มลพิษ หรือการเจอสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ฝนตก อากาศชื้น หรือเจอแดด จมูกจะมีอาการไวต่อตัวกระตุ้น ทำให้เกิดเป็นอาการภูมิแพ้
ซึ่งถ้าอยากทราบว่า อาการแพ้ที่พบเจออยู่เป็นจมูกอักเสบที่มาจากภูมิแพ้ หรือไม่ภูมิแพ้นั้น ต้องเข้ามาทำการทดสอบกับแพทย์ต่อไป
สาเหตุหลักของภูมิแพ้อากาศ
โรคภูมิแพ้อากาศ สาเหตุไม่ได้เกิดจากการ ‘แพ้อากาศ’ โดยตรงอย่างชื่อที่เรียกกันทั่วไป แต่เกิดจากการแพ้สารบางอย่างที่ปะปนอยู่ในอากาศ ซึ่งสารกระตุ้นที่พบบ่อย ได้แก่
- ไรฝุ่น เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยที่สุด พบมากในบ้านเรือน เช่น ที่นอน หมอน ผ้าห่ม พรม เฟอร์นิเจอร์บุผ้า
- ละอองเกสรดอกไม้ มักมีอาการชัดเจนในช่วงฤดูที่พืชออกดอก
- ขนสัตว์เลี้ยง เช่น ขนสุนัข ขนแมว หรือสะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง
- เชื้อราที่พบในบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องใต้ดิน
- เศษซากแมลง เช่น แมลงสาบ
- มลพิษทางอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5, ควันบุหรี่, ควันรถยนต์, กลิ่นฉุนต่าง ๆ ถึงแม้จะไม่ใช่สารก่อภูมิแพ้โดยตรง แต่ก็สามารถกระตุ้นให้อาการภูมิแพ้กำเริบได้
- การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และความชื้นในอากาศ เช่น อากาศเย็นจัด ฝนตก อากาศแห้ง หรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว

อาการของภูมิแพ้อากาศ


โรคภูมิแพ้อากาศ อาการที่พบบ่อยมักเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจส่วนบนและตา ได้แก่
- จามบ่อย โดยเฉพาะในช่วงเช้า หรือเมื่อเจออากาศเย็น ฝุ่น
- คัดจมูก อาจเป็นข้างเดียวหรือสองข้าง สลับไปมา หายใจลำบาก
- น้ำมูกไหล มักเป็นน้ำมูกใส ๆ
- คันจมูก บางรายอาจขยี้จมูกบ่อยจนเป็นรอยที่สันจมูก
- คันตา แสบตา น้ำตาไหล บางครั้งอาจมีตาแดง หนังตาบวม
- คันคอ คันเพดานปาก หรือคันหู
- มีเสมหะไหลลงคอ ทำให้รู้สึกระคายคอ ไอเรื้อรัง
- อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ จากการนอนหลับไม่สนิทเนื่องจากคัดจมูก
ลักษณะอาการของภูมิแพ้อากาศ
ลักษณะอาการของภูมิแพ้อากาศ แบ่งเป็น 1. อาการเป็น ๆ หาย ๆ ไม่ได้เป็นตลอดทั้งปี กับ 2. การเป็นตลอดทั้งปี โดยทั้งสองกลุ่มมีลักษณะอาการดังนี้
- กลุ่มที่เป็น ๆ หาย ๆ มักจะมีอาการในช่วง PM 2.5 สูง ๆ สัมผัสกับควันบุหรี่ หรือในช่วงฝนตก หากมีอาการเยอะ ก็จะมีอาการเฉพาะช่วงที่สัมผัสกับสิ่งกระตุ้นภูมิแพ้
- กลุ่มที่แพ้สารก่อภูมิแพ้ที่มาเป็นฤดู เช่น การแพ้หญ้า การแพ้ละอองเกสรต้นไม้ อาการก็จะมีแค่บางฤดู เรียกว่าเฮย์ ฟีเวอร์ (Hay Fever) จะพบบ่อยในต่างประเทศมากกว่า
- ภูมิแพ้จมูกอักเสบที่เป็นทั้งปี เป็นลักษณะภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยในประเทศไทย เพราะสาเหตุหลักที่ทำให้คนที่เป็นภูมิแพ้มีอาการแพ้ในประเทศไทยคือ ไรฝุ่น แมลงสาบ สัตว์เลี้ยงที่อยู่ในบ้าน สุนัข แมว เชื้อรา เป็นต้น
วิธีการทดสอบภูมิแพ้อากาศ
วิธีการทดสอบโรคภูมิแพ้อากาศ จะมีทั้งหมด 2 วิธี ดังนี้
- การทดสอบภูมิแพ้โดยการเจาะเลือด โดยการนำเลือดไปตรวจ IgE จำเพาะ ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันของร่างกายชนิดหนึ่ง และสามารถบ่งบอกการแพ้ของแต่ละบุคคลได้
- Skin Prick Test คือ การหยดสารก่อภูมิแพ้ลงไปในท้องแขน และใช้แท่งพลาสติกเล็ก ๆ สะกิดไปที่ท้องแขน บริเวณไหนแพ้ จะมีตุ่ม บวมแดง และคันขึ้นมา
การรักษาโรคภูมิแพ้อากาศ


การรักษาโรคภูมิแพ้อากาศ สามารถทำได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น เมื่อทดสอบออกมาแล้ว พบว่าแพ้ไรฝุ่น ควรกำจัดไรฝุ่น และหาข้อมูลว่าควรจะกำจัดอย่างไรได้บ้าง เป็นวิธีรักษาภูมิแพ้ด้วยตัวเองขั้นเบื้องต้น
- รักษาด้วยการใช้ยา เช่น การล้างจมูก การใช้สเปรย์พ่นจมูก การใช้ยาแก้แพ้ หากมีโรคอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น มีโรคหอบหืด มีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง สามารถใช้ยาประเภทยาขยายหลอดลม ครีม ยาสเตียรอยด์ เพื่อรักษาอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
- การผ่าตัด สำหรับบางคนที่มีอาการรุนแรง เช่น จมูกบวมมาก หรือร่วมกับมีจมูกคด ร่วมกับมีอาการนอนกรน
- การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ เป็นการรักษากรณีเป็นภูมิแพ้รุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา โดยจะฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อสิ่งที่แพ้ ทำให้มีภูมิต้านทานที่จะอยู่กับสิ่งนั้นได้
วิธีดูแลตัวเองและป้องกันโรคภูมิแพ้อากาศ
สำหรับวิธีดูแลตัวเองและป้องกันโรคภูมิแพ้อากาศ สามารถทำได้ดังนี้
- หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ เช่น หลีกเลี่ยงฝุ่น เกสร ขนสัตว์
- รักษาความสะอาดในบ้าน เปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อย ๆ ใช้เครื่องฟอกอากาศ
- ล้างจมูกก่อนนอน โดยเฉพาะหลังกลับจากนอกบ้าน
- สวมใส่หน้ากากอนามัย เวลาต้องออกไปในที่ที่มีฝุ่น
- หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์มีขน เช่น แมว สุนัข (กรณีแพ้)
ภาวะแทรกซ้อนจากโรคภูมิแพ้อากาศ
ภาวะแทรกซ้อนจากโรคภูมิแพ้อากาศ (Allergic Rhinitis) เกิดจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุโพรงจมูก ทำให้ระบบทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่างมีความเสี่ยงเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา ซึ่งที่พบได้บ่อยมีดังนี้
- ไซนัสอักเสบ การอักเสบต่อเนื่องในโพรงจมูกทำให้ช่องระบายอากาศและของเหลวในไซนัสอุดตัน เชื้อโรคจึงเจริญเติบโตได้ง่าย เกิดการติดเชื้อซ้ำ ๆ
- หูชั้นกลางอักเสบ เกิดจากเยื่อบุจมูกและท่อยูสเตเชียนบวมจากภูมิแพ้ อากาศและของเหลวค้างในหูชั้นกลางจึงติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะในเด็ก
- หลอดลมอักเสบ หรือหอบหืดกำเริบ ภูมิแพ้อากาศสัมพันธ์กับโรคหอบหืด การอักเสบของจมูกกระตุ้นการหดเกร็งของหลอดลม ทำให้หายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอก
- นอนกรนและหยุดหายใจขณะหลับ การบวมของเยื่อบุโพรงจมูกทำให้หายใจติดขัดตอนนอน เพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจในระยะยาว
- คุณภาพชีวิตลดลง คัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูกเรื้อรัง รบกวนการนอน ทำให้เหนื่อย เพลีย สมาธิลดลง เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้าหรือความเครียดจากการนอนหลับไม่เพียงพอ
ภูมิแพ้อากาศ ชนะได้ด้วยการเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
ภูมิแพ้อากาศ หรือโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เป็นภาวะที่ร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองผิดปกติต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ หรือละอองเกสร ทำให้เกิดอาการจาม คันจมูก น้ำมูกไหล และคัดจมูก อาการเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประจำวัน
แม้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถควบคุมอาการได้ด้วยการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ การใช้ยาบรรเทาอาการภายใต้คำแนะนำของแพทย์ รวมถึงการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ และการฉีดวัคซีนภูมิแพ้ในบางกรณี
ถ้าคุณมีอาการภูมิแพ้อากาศต่อเนื่องมากกว่า 2 สัปดาห์ ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านภูมิแพ้ โรงพยาบาลนครธน เราพร้อมให้คำปรึกษา ตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคภูมิแพ้สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง พร้อมเครื่องมือที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้การตรวจหาสาเหตุของภูมิแพ้มีความแม่นยำสูงสุด และวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด ให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ
ช่องทางติดต่อโรงพยาบาลนครธน:
- - Website : https://www.nakornthon.com
- - Facebook : Nakornthon Hospital
- - Line : @nakornthon
- - Tel: 02-450-9999 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย
บทความทางการแพทย์บริการทางการแพทย์ด้านภูมิแพ้, ศูนย์สุขภาพเด็ก