เอ็นไขว้หน้าขาด บาดเจ็บจากเล่นกีฬา รักษาด้วยผ่าตัดส่องกล้อง

ศูนย์ : ศูนย์กระดูกและข้อ

บทความโดย :

เอ็นไขว้หน้าขาด

ภาวะเอ็นไขว้หน้าขาด หรือ เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าฉีกขาด มักเป็นอาการบาดเจ็บที่มาควบคู่กับการเล่นกีฬาที่ต้องใช้แรง อาทิ ฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล และการวิ่งมาราธอนในระยะต่าง ๆ เมื่อมีอาการมักโดนเพิกเฉยเพราะคิดว่าแค่เส้นเอ็นอักเสบไม่อันตราย แต่กลับกันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นมีอาการปวดมาก บวม ลงน้ำหนักเดินไม่ไหว เส้นเอ็นขาด เอ็นฉีก และเข่าหลวม หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี จะทำให้ไม่สามารถกลับไปเล่นกีฬาได้ดังเดิม หรือการดำเนินชีวิตปกติได้เหมือนเดิม ภาวะนี้ต้องได้รับการส่องกล้องข้อผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าขาด โดยทางศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลนครธน มีทีมแพทย์เฉพาะทางการผ่าตัดส่องกล้องซ่อมสร้างเส้นเอ็น ซึ่งหลังจากผ่าเข่าแล้วได้ผลดี เจ็บน้อย ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตาม


รู้จัก...เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า

เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า หรือ Anterior Cruciate Ligament: ACL คือ เส้นเอ็นขนาดใหญ่เส้นหนึ่งที่อยู่ภายในเข่า โดยจะเกาะอยู่ระหว่างปลายกระดูกต้นขา (Femur Bone) และต้นกระดูกหน้าแข้ง (Tibia Bone) หน้าที่หลัก ๆ ของเอ็นเส้นนี้ คือเสริมความมั่นคงให้แก่ข้อเข่า ควบคุมการเคลื่อนไหวของหัวเข่าและหน้าแข้ง ให้เคลื่อนไหวได้มากน้อยและในมุมต่าง ๆ ป้องกันไม่ให้เราเหยียดเข่าเกินองศา (Hyperextension) จนทำอันตรายต่อกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังและผิวข้อเข่า ถือว่าเป็นเส้นเอ็นที่มีความสำคัญต่อข้อเข่ามาก เพราะหากเส้นเอ็นเข่านี้บาดเจ็บหรือเอ็นไขว้หน้าขาดอย่างถาวร จะทำให้ข้อเข่าขาดความมั่นคงอย่างหนัก ขณะที่ผู้ป่วยเดินจะรู้สึกเข่าหลวม ปวดภายในเข่า และทำให้เข่าเสื่อมตามมาได้เร็วขึ้น

> กลับสารบัญ


เอ็นไขว้หน้าขาดเกิดจากอะไร


เอ็นไขว้หน้าขาดเกิดจาก เอ็นไขว้หน้าขาดเกิดจาก

อาการเอ็นไขว้หน้าขาด หรือเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขาดมักพบได้บ่อย โดยเฉพาะสาเหตุจากการเล่นกีฬาและเกิดจากการบิดหมุนของหัวเข่าที่รุนแรง ทำให้เส้นเอ็นเกิดการบาดเจ็บหรือฉีกขาดได้ ซึ่งมักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลากับการเล่นกีฬาทุกประเภท โดยเฉพาะกีฬาที่ต้องมีการปะทะ เช่น นักฟุตบอล นักวอลเลย์บอล นักบาสเกตบอล หรืออาจเกิดจากกิจกรรมอื่นทั่วไป เช่น ตกบันได อุบัติเหตุ แม้แต่เดินสะดุดก็อาจทำให้เอ็นไขว้หน้าขาดได้เช่นกัน

> กลับสารบัญ


อาการเอ็นไขว้หน้าขาดเป็นอย่างไร

  • รู้สึกมีอะไรดีดอยู่ข้างในขา
  • หัวเข่าใช้งานไม่ได้ในขณะที่ได้รับบาดเจ็บ
  • หัวเข่าบวมปูดทันทีหรือภายในไม่กี่ชั่วโมง
  • มีอาการเจ็บปวดรุนแรงจนไม่สามารถทำกิจกรรมอื่นได้

โดยบางรายหลังจากเอ็นไขว้หน้าขาด อาการปวด บวม เส้นเอ็นอักเสบบริเวณหัวเข่าจะค่อย ๆ ดีขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถเดินได้ด้วยตนเอง โดยไม่รู้สึกผิดปกติ แต่เมื่อกลับไปเล่นกีฬาหรือใช้งานอีก จะรู้สึกว่าเข่าไม่มั่นคงและจะทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดหมอนรองข้อฉีกขาด ส่งผลให้เกิดอาการงอเข่าไม่ลง ปวดบริเวณข้อตามมา

> กลับสารบัญ


ปรึกษาแพทย์ออนไลน์

คนกลุ่มไหนเสี่ยงเป็นเอ็นไขว้หน้าขาด

เอ็นไขว้หน้าขาดไม่ได้เกิดเฉพาะกับนักกีฬาเท่านั้น แต่ยังสามารถเกิดได้กับบุคคลทั่วไป โดยกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงเป็นเอ็นไขว้หน้าขาดสูง ได้แก่

  • นักกีฬาเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่เล่นกีฬาที่ต้องมีการเคลื่อนไหวแบบบิดหมุนตัวอย่างรวดเร็ว การหยุดกะทันหัน การกระโดด หรือมีการปะทะรุนแรง เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล รักบี้ สกี เทนนิส แบดมินตัน และยิมนาสติก เป็นต้น
  • ผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อการเกิดเอ็นไขว้หน้าขาดมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากมีสรีระของข้อเข่าที่มีมุมมากกว่า และโดยเฉลี่ยแล้วมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อรอบเข่าน้อยกว่า
  • ผู้ที่เคยมีประวัติบาดเจ็บที่เข่า เคยมีอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หรือกระดูกส่วนอื่น ๆ ของเข่ามาก่อน เช่น หมอนรองกระดูกข้อเข่าฉีกขาด อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเอ็นไขว้หน้าขาดได้
  • ผู้ที่ประสบอุบัติเหตุที่ทำให้ข้อเข่าบิดผิดรูปอย่างรุนแรง เช่น ตกบันได หกล้มในลักษณะที่เข่าบิด อุบัติเหตุทางรถยนต์ เป็นต้น
  • ผู้ที่ใส่รองเท้าไม่เหมาะสม การใส่รองเท้าเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายที่ไม่พอดี อาจทำให้เสียหลักล้มหรือข้อเข่าบิดระหว่างทำกิจกรรมได้
  • ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องใช้เข่ามาก ต้องยกของหนักเป็นประจำ หรือผู้ที่ต้องใช้งานข้อเข่าในการทำงานหรือเล่นกีฬาอย่างต่อเนื่อง อาจเพิ่มความเสี่ยงได้เช่นกัน

> กลับสารบัญ


วิธีการวินิจฉัยเอ็นไขว้หน้าขาด

เมื่อมีข้อสงสัยว่าเอ็นไขว้หน้าเข่าขาด แพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด จากนั้นจะใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและตรวจหาความผิดปกติอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นร่วมกัน ได้แก่

  • การถ่ายภาพทางรังสี (X-Ray) เป็นการตรวจเบื้องต้นเพื่อหาความผิดปกติของกระดูก เช่น ภาวะกระดูกหัก หรือความเสียหายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับโครงสร้างกระดูกรอบเข่า
  • การตรวจโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) เป็นการตรวจที่ให้รายละเอียดของเนื้อเยื่ออ่อนได้ดีที่สุด แพทย์จะใช้ MRI ในการวินิจฉัยการบาดเจ็บของเอ็นไขว้หน้าเข่า รวมถึงการบาดเจ็บร่วมอื่น ๆ ที่พบบ่อย เช่น กระดูกอ่อนบาดเจ็บ หรือหมอนรองกระดูกเข่าฉีกขาด

> กลับสารบัญ


การรักษาเอ็นไขว้หน้าขาด


ผ่าตัดส่องกล้องซ่อมสร้างเส้นเอ็น ผ่าตัดส่องกล้องซ่อมสร้างเส้นเอ็น

โดยทั่วไปผู้ป่วยที่มีภาวะเอ็นไขว้หน้าขาด จะยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ แต่อาจจะเกิดภาวะข้อเข่าเคลื่อน ในกิจกรรมที่ต้องมีการบิดหมุนของหัวเข่า และที่สำคัญผู้ที่มีภาวะเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าฉีกขาด เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดการบาดเจ็บต่อหมอนรองเข่าและกระดูกอ่อนหัวเข่า ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะข้อเข่าเสื่อมก่อนวัยอันสมควร ซึ่งการรักษาแบ่งเป็น 2 แบบ คือ

  • รักษาเอ็นไขว้หน้าขาดโดยการไม่ผ่าตัด เหมาะกับผู้สูงอายุที่ไม่ต้องการทำกิจกรรมที่ใช้หัวเข่ามากนัก และสามารถปรับพฤติกรรมตนเองให้เหมาะกับเข่าที่ไม่สามารถบิดหมุนรุนแรง
  • รักษาเอ็นไขว้หน้าขาดโดยการผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ป่วยอายุน้อย และต้องการกลับไปใช้ชีวิตประจำวันและกีฬาในระดับใกล้เคียงกับก่อนการบาดเจ็บ

การผ่าตัดส่องกล้องรักษาเอ็นไขว้หน้าขาด

การรักษาเส้นเอ็นไขว้หน้าขาด ทำได้โดยการผ่าตัดซ่อมสร้างเส้นเอ็นด้วยวิธีส่องกล้อง (Arthroscopic Surgery) โดยนำเส้นเอ็นจากบริเวณอื่นมาทดแทน โดยทั่วไปจะใช้เอ็นจากสะบ้าเข่าหรือเอ็นบริเวณรอบ ๆ มาใช้ การผ่าตัดส่องกล้องมีข้อดี คือผ่าตัดเจาะรูเล็กเพื่อใส่อุปกรณ์ และกล้องสำหรับส่องเข้าไปในข้อ แสดงภาพที่จอคอมพิวเตอร์ช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นรายละเอียดได้อย่างชัดเจน ผู้ป่วยจะมีอาการบาดเจ็บหลังการผ่าตัดน้อยกว่า ใช้เวลาพักฟื้นสั้น และมีโอกาสในการติดเชื้อที่ต่ำกว่า ซึ่งผู้ป่วยจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติได้รวดเร็วกว่า


เทคนิคระงับความเจ็บปวด หลังจากการผ่าตัด

หลังจากการผ่าตัดส่องกล้องรักษาเอ็นไขว้หน้าขาด ผู้ป่วยจะไม่เจ็บปวดหลังผ่าตัดเหมือนในอดีต เพราะผู้ป่วยจะได้รับการดูแลและระงับอาการปวดหลังผ่าตัดทันที ด้วยวิธีการฉีดยาชาบริเวณรอบเส้นประสาทส่วนปลาย (Peripheral Nerve Block) โดยมีขั้นตอนการฉีดยาชาลดปวด ซึ่งจะใช้เข็มหรือใส่สายคาเพื่อให้ยาชาที่บริเวณเส้นประสาทส่วนปลาย ยาชาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการนำสัญญาณประสาทไม่ให้เข้าไปในไขสันหลัง จะทำภายใต้การใช้เครื่องคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) ซึ่งแพทย์จะทำการตรวจสอบตำแหน่งเส้นประสาทก่อนจะให้ยา จึงทำให้ผู้ป่วยได้รับการระงับปวดหลังผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยสูง สามารถลดการตอบสนองของร่างกายต่อความเครียดจากการผ่าตัดได้ดี ช่วยให้ฟื้นตัวหลังผ่าตัดได้เร็ว

> กลับสารบัญ


ผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าขาดแล้วจะสามารถกลับไปเล่นกีฬาได้เมื่อไหร่

โดยทั่วไปหลังการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าขาด ประมาณ 1 เดือนผู้ป่วยจะใช้ไม้เท้าและสนับเข่า 3 เดือนหลังผ่าตัด จะเดินเร็วได้ และ 6-9 เดือนหลังผ่าตัด แพทย์จะให้ทำกายภาพบำบัดที่เหมาะสมกับกีฬาแต่ละแบบ และประมาณ 1 ปีหลังการผ่าตัด ผู้ป่วยจะสามารถกลับไปเล่นกีฬาได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละรายด้วย

ทั้งนี้ เอ็นเข่าฉีก หายเองได้ไหม ผู้ป่วยที่มีเส้นเอ็นไขว้หน้าขาด จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด ควบคู่การทำกายภาพบำบัดเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขาดนั้น หากไม่รีบรักษาจะส่งผลให้เข่าเสื่อมก่อนวัยได้

> กลับสารบัญ


เอ็นไขว้หน้าขาด ปล่อยไว้อาจรุนแรง รีบรักษา

หากคุณเป็นนักกีฬาหรือมีผู้ใกล้ชิดที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับอาการเอ็นไขว้หน้าขาด ต้องการรักษา หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ทางศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลนครธน มีความพร้อมเป็นอย่างมากด้านการรักษาเรื่องกระดูกและข้อ อาทิ ข้อเข่าเสื่อม เส้นเอ็นฉีกขาด เอ็นไขว้หน้าขาด ผ่าตัดเข่า มีบุคลากรทีมแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ และแพทย์เวชศาสตร์การกีฬาไว้รองรับโดยเฉพาะ ด้วยการรักษาพยาบาลที่ถูกต้อง รวดเร็ว และเห็นผลการรักษาได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งการช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพในการที่จะให้ผู้บาดเจ็บสามารถกลับมาออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาได้อย่างเดิม หรือดีกว่าเดิม และคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษา สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลก่อนได้ตามลิงก์ด้านล่างได้เลย

> กลับสารบัญ


ช่องทางติดต่อโรงพยาบาลนครธน:

  1. - Website : https://www.nakornthon.com
  2. - Facebook : Nakornthon Hospital
  3. - Line : @nakornthon
  4. - Tel: 02-450-9999 (ตลอด 24 ชั่วโมง)


ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย




Share :

สินค้าในตระกร้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไข, กรุณาตรวจสอบจำนวน
จัดการตระกร้าสินค้า

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย