ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองผู้สูงอายุ ความผิดปกติที่ต้องรีบรักษา

ศูนย์ : ศูนย์สมองและระบบประสาท

บทความโดย : นพ. เอกพจน์ จิตพันธ์

ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองผู้สูงอายุ ความผิดปกติที่ต้องรีบรักษา

หากผู้สูงอายุที่บ้านมีลักษณะเดินช้าๆ ซอยเท้าถี่ๆ ทรงตัวไม่อยู่เวลายืนหรือเดินมีอาการเซ และหกล้มบ่อย อาจจะไม่ใช่อาการทั่วไปของวัยชรา แต่เป็นสัญญาณเตือนของความผิดปกติของสมอง ที่เกิดภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองได้ ซึ่งโรคนี้ยังเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคสมองเสื่อม แม้ภาวะนี้พบได้ไม่บ่อยนัก แต่หากเริ่มมีอาการหรือมีความผิดปกติดังกล่าวแม้เพียงเล็กน้อย ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย


ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง เป็นอย่างไร?

ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง (Normal pressure Hydrocephalus: NPH) เป็นภาวะที่มีน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังในโพรงสมองมากเกินไป จะทำให้เกิดการขยายขึ้นของโพรงน้ำไปกดเบียดเนื้อสมองบริเวณรอบๆ เป็นเหตุให้การทำงานของสมองผิดปกติ จนพัฒนาการของร่างกายและสติปัญญาบกพร่อง ภาวะนี้เกิดได้กับทุกวัย แต่จะพบมากในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยจะทำให้เกิดอาการผิดปกติ คล้ายความจำเสื่อม พูดจาสับสน พูดไม่ได้ประโยค หรือไม่ได้ใจความ ร่วมกับมีปัญหาเรื่องการเดิน เดินเซ ทรงตัวไม่อยู่ รวมทั้งเรื่องการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่


สาเหตุภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง

สาเหตุของการเกิดภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้

  1. กลุ่มที่หาสาเหตุไม่พบ คือ มีการดูดซึมน้ำในโพรงสมอง (Cerebrospinal fluid: CSF) กลับเข้าหลอดเลือดดำ ลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุซึ่งทำให้เกิดการคั่งของน้ำหล่อเลี้ยงในโพรงสมอง โพรงสมองจึงขยายโตขึ้นอย่างช้าๆ ส่งผลต่อเนื้อเยื่อสมอง และก่อให้เกิดอาการดังที่กล่าวมา แต่ความดันในโพรงสมองยังปกติอยู่ จึงเรียกภาวะนี้ว่า ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติ
  2. กลุ่มที่หาสาเหตุพบส่วนใหญ่มักมาจากการเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บที่กระทบต่อสมอง เช่น มีภาวะเลือดออกในชั้นใต้เยื่อหุ้มสมอง ภาวะติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมอง หรือเยื้อหุ้มสมองอักเสบ อุบัติเหตุรุนแรงที่สมอง เช่น ตกจากที่สูง ล้ม หรือถูกรถชนแล้วศีรษะถูกกระแทกอย่างแรง ทำให้เกิดการอุดตันในสมองจนน้ำสมองไม่สามารถระบายไปส่วนต่างๆ ได้ สมองผลิตน้ำหล่อเลี้ยงออกมามากเกินไป หรือหลอดเลือดสมองอาจไม่สามารถดูดซับน้ำสมองได้ตามปกติ

เมื่อน้ำคั่งในโพรงสมองมีอาการอย่างไร?

ผู้ป่วยจากภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง จะมีอาการผิดปกติที่พบได้บ่อยๆ 3 อาการ ได้แก่

  1. มีปัญหาในการเดินและการทรงตัว ไม่สามารถใช้ขาในการก้าวเดินได้เป็นปกติ เดินลำบากเวลาขึ้นลงบันไดหรือที่ลาดชัน ยกขาไม่พ้นจากพื้น เดินซอยเท้า ทรงตัวไม่ดีหรือเดินเซ ล้มบ่อย นั่งแล้วยืนไม่ถนัดต้องหาที่เกาะยึดหรือก้าวเดินต่อไป ยืนโน้มตัวไปข้างหน้า ก้มหน้าตัวงอเอียง
  2. ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่/ไม่ได้ บางครั้งเล็ด เข้าห้องน้ำไม่ทัน
  3. ภาวะสมองเสื่อม มีปัญหาในการจำ การคิด และการใช้เหตุผล ตอบสนองช้า ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พูดน้อย เสียงเบาแหบ สำลักน้ำและอาหารบ่อย

รู้ได้อย่างไรว่าเป็นน้ำคั่งในโพรงสมอง?

แพทย์จะทำการซักประวัติ ดูอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้น การตรวจร่างกาย ร่วมกับการตรวจพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติม ได้แก่ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) หรือการเอ็กซเรย์แม่เหล็ก (MRI) เพื่อช่วยยืนยันให้เห็นว่าโพรงน้ำในสมองมีขนาดใหญ่กว่าปกติจริงๆ และมีการกดเบียดบังตำแหน่งของเนื้อสมองด้านหน้าและด้านใน ขั้นต่อมาแพทย์จะทำการทดสอบโดยการเจาะหลังเพื่อระบายน้ำ หรือทดสอบด้วยการฉีดน้ำเข้าไปในโพรงไขสันหลัง เป็นต้น


ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองรักษาได้

ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมองรักษาได้ด้วยการผ่าตัดเพื่อลดแรงกดของสมอง และระบายของเหลวในสมองออกไป โดยการผ่าตัดใส่สายระบายน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง แพทย์จะทำการเจาะและใส่อุปกรณ์ที่เป็นท่อที่ยาว ยืดหยุ่นได้ และมีลิ้นเปิดปิดเพื่อระบายน้ำที่คั่งในโพรงสมอง แล้วจะผ่าตัดนำปลายท่อด้านหนึ่งไว้ที่โพรงสมอง แล้วสอดท่อไว้ใต้ผิวหนังผ่านไปยังส่วนอื่นของร่างกายที่สามารถดูดซึมน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลังที่มากเกินไปได้ เช่น บริเวณช่องท้อง เป็นการผ่าตัดแผลเล็กที่ง่าย มีความเสี่ยงต่ำ แต่ได้ผลค่อนข้างดี หลังจากผ่าตัดผู้ป่วยจะมีอาการค่อยๆ ดีขึ้นอย่างช้าๆ มากน้อยแตกต่างกันไป โดยปัญหาเรื่องการเดินที่ผิดปกติจะดีขึ้นชัดเจนที่สุด

ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง สามารถรักษาหายได้ แต่ต้องอาศัยคนใกล้ตัวหมั่นสังเกตผู้ป่วย หากพบมีอาการให้รีบพาปรึกษาแพทย์ เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที




ปรึกษาทุกปัญหาสุขภาพแบบออนไลน์
ไม่เสียค่าใช้จ่าย





Share :

แพ็กเกจ/โปรโมชั่น

เมื่อคลิก “อนุญาตคุกกี้ทั้งหมด” หมายความว่าผู้ใช้งานยอมรับที่จะเปิดการใช้งานคุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเปิดใช้คุณสมบัติของโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าใช้งานเพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการทำการตลาดและการโฆษณา รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลการใช้งานกับพาร์ทเนอร์โซเชียลมีเดีย