Glioblastoma (GBM) เนื้องอกในสมองที่มีความรุนแรง
ศูนย์ : ศูนย์สมองและระบบประสาท
บทความโดย : นพ. สมศักดิ์ ผ่องประเสริฐ
เนื้องอกในสมอง เป็นโรคที่พบไม่บ่อยนัก เมื่อเทียบกับเนื้องอกของอวัยวะอื่น สามารถเกิดได้กับคนทุกอายุ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งเพศหญิงและเพศชาย เกิดได้ในทุกส่วนของสมอง มีทั้งเนื้องอกที่เป็นก้อนเนื้อธรรมดา ไปจนถึงชนิดร้ายแรง อย่างเนื้องอกในสมองที่มีชื่อว่า กลัยโอบลาสโตมา (Glioblastoma หรือ GBM) เนื้องอกสมองที่มีความรุนแรงมาก สามารถกล่าวได้ว่าเป็นมะเร็งที่ร้ายแรงที่สุดของสมอง เป็นเนื้องอกที่เจริญเติบโต และแพร่กระจายเร็ว กลืนกินเข้าไปในเนื้อสมองปกติข้างเคียงได้ไว และทำให้เสียชีวิตในเวลาอันสั้น
รู้จักเนื้องอกในสมอง Glioblastoma
เนื้องอกในสมอง Glioblastoma หรือ GBM คือ เนื้องอกสมองชนิดร้ายแรง และจัดเป็นเนื้องอกที่เป็นมะเร็งสมองที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ใหญ่ สามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปยังส่วนอื่นๆ ของสมอง ที่พัฒนามาจากตัวเซลล์ประสาทชื่อว่า แอสโทรไซติก (Astrocyte) โดยเซลล์ชนิดนี้จะมีรูปร่างคล้ายดาว 5 แฉก และทำหน้าที่สำคัญคือ เป็นหน่วยสนับสนุนเซลล์สมองนิวรอน (Neuron) ทั้งด้านการให้อาหารและการซ่อมแซมโดยทั่วไปแล้วเนื้องอกชนิดนี้จะเกิดขึ้นได้ 2 แบบ คือ เกิดขึ้นเองได้ และกลายร่างมาจากเนื้องอกชนิดเนื้อดีบางชนิดที่เป็นมานาน
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของเนื้องอกในสมอง Glioblastoma
สาเหตุของเนื้องอกในสมอง Glioblastoma ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสของเนื้องอกในสมอง Glioblastoma ได้แก่
- เคยได้รับการฉายแสงบริเวณที่ต้นคอหรือศีรษะมาก่อน แล้วทำให้เกิดเนื้องอกในระบบประสาทได้ในระยะ 5 หรือ 10 ปีตามมา
- ความเสี่ยงจากการสัมผัสกับตัวทำละลายเคมีต่างๆ โดยเฉพาะสารกำจัดศัตรูพืช น้ำมัน รวมถึงพลาสติกไวนิลคลอไรด์ (PVC)
- ประวัติการเป็นโรคเนื้องอกสมองในครอบครัว
- การได้รับสัมผัสรังสีหรือสารกำมันตภาพ
อาการแสดงของเนื้องอกในสมอง Glioblastoma
เนื้องอกในสมองมักจะมาด้วยอาการที่หลากหลายขึ้นกับตำแหน่งของเนื้องอกในสมอง โดยที่อาการที่พบบ่อยที่สุดในเนื้องอกในสมอง Glioblastoma คือ
- อาการปวดศีรษะ และอาเจียนร่วมด้วย
- มีอาการชัก ไม่ว่าจะชักทั้งตัวหรือชักเฉพาะที่ โดยที่ไม่เคยเป็นโรคลมชักมาก่อน
- การเสียประสิทธิภาพการทำงานของระบบประสาท โดยเฉพาะการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อแขน ขา และกล้ามเนื้อลาย
- เห็นภาพซ้อน
- การสูญเสียการรับสัมผัส การสูญเสียการมองเห็น การมองเห็นผิดปกติ การได้ยินผิดปกติ
- อัมพฤกษ์ครึ่งซีก (hemiparesis)
การวินิจฉัยเนื้องอกในสมอง Glioblastoma
โดยเบื้องต้นแพทย์จะทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด และหากสงสัยว่าอาจมีเนื้องอกในสมอง จะต้องทำการตรวจด้วยการเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของสมอง (MRI Brain) เพื่อสร้างภาพถ่ายโครงสร้างภายในสมองและเนื้องอก ที่มีความละเอียดที่มากกว่าภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) หากพบว่ามีเนื้องอกในสมอง หรือเนื้อเยื่อผิดปกติ แพทย์อาจทำการตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจวินิจฉัยหาความผิดปกติของเนื้อเยื่อว่าเป็นเนื้องอกชนิดใด รุนแรงระดับไหน เพื่อวางแผนทำการรักษาต่อไป
การรักษาเนื้องอกในสมอง Glioblastoma
แม้ว่าในปัจจุบันอาจยังไม่มีวิธีการใดที่สามารถรักษาเนื้องอกในสมอง Glioblastoma ให้หายขาดได้ แต่ก็มีวิธีมาตรฐานที่สามารถช่วยยืดอายุและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยได้
ซึ่ง การผ่าตัด จะเป็นวิธีหลักในการรักษา โดยแพทย์จะผ่าตัดเพื่อกำจัดเนื้องอกออกให้ได้มากที่สุด เท่าที่สามารถเอาออกได้ เพื่อลดความบาดเจ็บที่เนื้อสมอง โดยให้กระทบต่อการทำงานของระบบประสาทน้อยที่สุด เนื่องจากความสามารถของเนื้องงอกในสมอง Glioblastoma ที่สามารถเข้าไปรุกรานบริเวณของเนื้อสมองปกติด้วย ทำให้การตัดสินใจที่จะตัดเนื้องอกออกทั้งหมดนั้นอาจทำไม่ได้ในทุกกรณี โดยเฉพาะในบางรายที่ Glioblastoma เข้าไปปนอยู่กับเส้นใยประสาทส่วนควบคุมเรื่องการเคลื่อนไหวของแขนขา การตัดเอาเนื้องอกในผู้ป่วยกลุ่มนี้ออกมากเกิน ก็อาจจะทำให้มีความพิการรุนแรงเกิดขึ้นได้
หลังจากการผ่าตัดและทราบชนิดของเนื้องอกแล้วผู้ป่วยจะต้องได้รับการฉายแสงร่วมกับการใช้ยาเคมีบำบัด เพื่อที่จะจัดการกับเซลล์เนื้องอกที่ยังหลงเหลืออยู่
แม้ว่า เนื้องงอกในสมอง Glioblastoma จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้าผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว ก็จะสามารถช่วยลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมไปถึงการช่วยยืดอายุของผู้ป่วยให้นานขึ้น